การบริหารกระแสเงินสดให้มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ธุรกิจมีความมั่นคงมากขึ้น อยู่รอดได้ต่อไปในระยะยาว แม้จะมองเห็นตัวเลขที่บัญชีบริหารนำเสนอออกมาดูสวยหรูสักแค่ไหน แต่กระแสเงินสดกลับป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า แม้จะมองเห็นในบัญชีว่ามีกำไร แต่กลับไม่มีเงินสดหมุนเวียนให้จับต้องได้ ไม่มีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายที่เข้ามาในแต่ละวันหรือแต่ละเดือน ทำให้ผู้ประกอบการหลายต่อหลายคนที่บริหารกิจการแบบผิดวิธี ต้องเจ๊งปิดกิจการกันไปแล้วนักต่อนัก นั่นก็เพราะการมองแค่ตัวเลขที่บันทึกเอาไว้ในงบการเงิน หรือในกำไรทางบัญชีอย่างเดียว เพราะบริษัทมีผลกำไร นั่นไม่ได้หมายถึงเงินสด แต่เป็นตัวเลขที่ผ่านการบันทึกเอาไว้ในรายการบัญชี
ถ้ามองไม่เห็นตัวเงินจริง ๆ แล้วล่ะก็ เตรียมรับมือความเสี่ยงที่กิจการจะอยู่ไม่รอดได้เลย เพราะเงินที่ต้องจ่ายให้กับพนักงาน เจ้าหนี้ หรือแม้กระทั่งการสั่งซื้อสินค้าไม่มี ก็ทำให้กิจการหยุดชะงักเอาได้ ลองมาดูข้อมูลกันดีกว่าว่า กระแสเงินสดกับกำไรทางบัญชี และปัญหาขายดีแต่ไม่มีเงินสดนั้น มีสาเหตุมาจากอะไร จะได้ทำความเข้าใจกันได้ถูกต้องมากขึ้น
ทำความรู้จักกับกระแสเงินสด และความสำคัญในโลกธุรกิจ
การทำธุรกิจก็คือการผลิตเงินสด เป็นวงจรที่ต้องมีการวางแผนทางบัญชีให้มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างผลกำไรให้แก่ธุรกิจของตัวเอง สินค้าที่ถูกซื้อไป จะเปลี่ยนเป็นตัวเงินที่โอนเข้าไปยังบัญชีธนาคาร และถูกถอนออกมาเป็นเงินสด เป็นวงจรในลักษณะแบบนี้หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ
การได้มาของกระแสเงินสด อาจมาจาก การขายสินค้า, การขายทรัพย์สิน, การเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้, การกู้ยืม และการเพิ่มทุน เป็นต้น ดังนั้นกระแสเงินสดก็คือ เงินสดที่หมุนเวียนเข้าออกในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ ที่มาจากการทำธุรกิจ การหมุนเวียนนี้มีความสำคัญกับการเติบโตของธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะหากมีเงินสดหมุนเวียนออกไป ก็ต้องดูว่าเมื่อไหร่จะมีเงินสดหมุนเวียนกลับเข้ามา ถ้าช้า ก็จะทำธุรกิจไม่ค่อยมีสภาพคล่อง เนื่องจากในระยะเวลาที่รอนั้น อาจมีค่าใช้จ่ายประจำวันที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าซื้อของ ค่าส่งของ ค่าดอกเบี้ย หรือค่าจ้างพนักงาน เป็นต้น
ความสัมพันธ์ระหว่างกำไรทางบัญชี กับกระแสเงินสด
แม้ว่ากระแสเงินสดจะมีความสำคัญมากก็ตาม แต่เรื่องของการสร้างกำไรก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน กำไรทางบัญชีที่มาจากการวางระบบบัญชีให้มีประสิทธิภาพ แม้กำไรที่มองเห็นเป็นตัวเลขในรายการที่ถูกจดบันทึก จะจับต้องเป็นเงินสดในวันนี้ไม่ได้ แต่ถ้ามีการวางแผนจนธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ สร้างกำไรได้มากขึ้นในทุก ๆ ปีในระยะยาว ก็จะทำให้กิจการมีกระแสเงินสดที่ดีได้ ส่วนกิจการที่ไม่ค่อยมีกำไรทางบัญชีให้เห็นมากนัก แต่มีกระแสเงินสดที่ดี ก็จะช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้เหมือนกัน แต่เป็นการอยู่รอดในระยะสั้น ๆ เท่านั้น เพราะเงินสดที่มีในมือวันนึงอาจจะหมดไปเพราะมองไม่เห็นกำไร เงินสดค่อย ๆ ลดลง จนในที่สุดกิจการก็ไม่มีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายทางบัญชี เป็นวิกฤติทางการเงินที่กระทบต่อโครงสร้างของธุรกิจ จนอาจต้องปิดกิจการไปเลยถ้าหากยังไม่สามารถสร้างผลกำไรให้กลับมาได้เหมือนเดิม ทางที่ดีถ้าเป็นนักธุรกิจมือใหม่ มีกิจการไม่ใหญ่โตมาก อาจจะลองว่าจ้างที่ปรึกษาบัญชีหรือสำนักงานบัญชีคุณภาพมาช่วยให้คำแนะนำและช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้อีกทางหนึ่งจะดีกว่าปล่อยให้ธุรกิจค่อย ๆ ร่วงโรยจนไม่สามารถเดินหน้าต่อได้
สาเหตุที่ขายดี มีกำไร แต่ไร้เงินสด
มองตัวเลขในสมุดบัญชีมีแต่เงินเข้ามากกว่าเงินออก พอนำมาคำนวณรวมกันแล้วก็เห็นกำไรแบบเป็นกอบเป็นกำ แต่พอกลับมามองเงินในกระเป๋าที่ต้องจ่ายให้พนักงาน หรือจ่ายเงินเพื่อค่าใช้จ่ายต่าง ๆ กลับพบว่าไม่มีเงินสดเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในส่วนนี้ ทำให้หลายคนสงสัยว่าทำไมกิจการเหมือนจะไปได้ดี ขายดีมีกำไร แต่กลับไม่มีเงินสดใช้ ปัญหาที่เกิดขึ้นแบบนี้ ผู้ประกอบการบางรายตีโจทย์ไม่แตก ทำให้ต้องปิดกิจการกันมาแล้วนักต่อนัก เพราะฉะนั้นอาจจะต้องลองสังเกตปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้ดู
1.สต็อกสินค้าขายออกล่าช้า – เมื่อต้องซื้อสินค้าด้วยเงินสดเอามาสต็อกไว้ ซึ่งถือว่าเป็นรายจ่ายที่อยู่ในกระแสเงินสด หากสต็อกสินค้ายังไม่ถูกขายออกไปสักที ก็กลายเป็นสินค้าค้างสต็อก จัดเก็บเอาไว้นานเกิน ก็ทำให้ไม่มีเงินหมุนเวียนกลับเข้ามาในระยะเวลาที่ต้องการ เป็นตัวการทำให้ไม่มีเงินสดหมุนเวียนไปใช้จ่ายในส่วนอื่น กระทบกับเงินส่วนอื่นที่จัดแบ่งไว้ อาจจะต้องหยิบยืมเอามาใช้จ่ายก่อนชั่วคราว ทำให้ระบบบการเงินไม่มั่นคง
2.เงินจากการขายสินค้าเข้ามาช้า – เมื่อขายสินค้าออกไปได้แล้ว แต่เงินกลับไม่สามารถหมุนกลับมาได้ทันการ ใช้ระยะเวลานานกว่าจะได้เงินสดจากการขายสินค้า ซึ่งอาจจะมาจากการจ่ายเงินล่าช้าของลูกค้า หรือ ธุรกิจที่ปล่อยให้ลูกค้ามีระยะเวลาการชำระหนี้ได้นาน จนทำให้ธุรกิจไม่มีเงินเอาไปซื้อวัตถุดิบหรือสินค้ามาสต็อก เงินสดขาดมือ กลายเป็นต้องวิ่งหาจากเงินกู้เพื่อเอามาหมุนเวียนในระบบชั่วคราวแทน แม้จะทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ แต่ก็ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น กำไรลดลง ไม่เหมาะสำหรับการนำไปใช้บริหารธุรกิจในระยะยาว
3.ใช้เงินในกิจการไปกับค่าใช้จ่ายส่วนตัว – เป็นข้อผิดพลาดที่ไม่ควรทำเป็นอย่างมาก หากเจ้าของธุรกิจต้องการวางระบบบัญชีให้บริษัทเติบโตมากขึ้นในอนาคต จะต้องมีการทำบัญชีแบ่งแยกชัดเจน ระหว่างค่าใช้จ่ายภายในบริษัท และค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่ควรนำเอามาปนกัน ถ้าเอารายได้จากบริษัทไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าจิปาถะอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง แล้วเอามารวมเป็นค่าใช้จ่ายในบริษัท เพราะมองเห็นกำไรที่เป็นตัวเลข แต่เงินสดกลับถูกดึงเอาไปจ่ายส่วนอื่นก่อน แบบนี้ก็จะทำให้ธุรกิจไม่มีเงินสำรองเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าหรือจ่ายค่าพนักงาน กิจการก็หยุดชะงัก และเจ๊งในที่สุดถ้ายังไม่ปรับเปลี่ยนการวางแผนบัญชีส่วนตัวกับของกิจการ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อยากให้ระวังภาพลวงตาที่อาจเกิดขึ้นจากกำไรทางบัญชี ที่เป็นข้อมูลการจดบันทึก ทำให้ผู้ประกอบการวิเคราะห์ระบบธุรกิจผิดพลาดไป ดังนั้นควรนำเอากระแสเงินสดมาวิเคราะห์ในการบริหารกิจการร่วมด้วยเพื่อจะได้วางแผนอนาคตของธุรกิจให้มีความมั่นคงมากกว่าในปัจจุบัน สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำไรทางบัญชีและกระแสเงินสดของกิจการ ลองเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลกับ Scholar Accounting เพื่อรับคำปรึกษาและคำแนะนำดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดทำบัญชี รับรองว่าคุณจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับกำไรทางบัญชีและกระแสเงินสดเพื่อนำไปใช้ในการวางแผนให้กิจการมีสภาพคล่องที่ดีต่อไปในอนาคต