อัตราส่วนทางการเงิน เรื่องที่ต้องรู้ก่อนยื่นกู้แบงค์

ในงบการเงินนั้น ประกอบไปด้วยข้อมูลตัวเลขมากมายของกิจการซึ่งแสดงอยู่ในรายงานทางการเงินอย่างเป็นแบบแผน เมื่อธนาคารได้รับข้อมูลทางการเงินของกิจการที่ต้องการขอสินเชื่อไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ ธนาคารจะนำข้อมูลดังกล่าวมาทำการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินเพื่อให้เข้าใจผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของกิจการ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะปล่อยสินเชื่อให้หรือไม่

ดังนั้นผู้ประกอบการที่ต้องการกู้เงินจากธนาคารเพื่อนำมาลงทุนในธุรกิจของตัวเอง จะต้องรู้ว่าธนาคารพิจารณาข้อมูลอะไรบ้าง  ลองมาดูข้อมูลต่อไปนี้ ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจเกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร เพื่อเตรียมตัววางแผนการขอสินเชื่อให้ผ่านการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารได้ง่ายขึ้น

อัตราส่วนทางการเงินคืออะไร ?

อัตราส่วนทางการเงิน เป็นสิ่งที่ใช้วิเคราะห์ความมั่นคงทางการเงิน ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ ธนาคารจะนำตัวเลขจากงบการเงินที่เกี่ยวข้องมาหาอัตราส่วนต่าง ๆ เพื่อช่วยให้เข้าใจสุขภาพทางการเงินและผลการดำเนินงานของกิจการได้ดียิ่งขึ้น

ถ้าอยากกู้เงินจากธนาคารให้ผ่าน นี่คือสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องทำความรู้จักให้มากเข้าไว้ จะได้นำไปใช้วางระบบบัญชีภายในองค์กรให้ดูมั่นคงและน่าเชื่อถือ นอกจากการใช้ยื่นกู้กับธนาคาร ข้อมูลจากอัตราส่วนทางการเงินยังช่วยเปรียบเทียบผลการทำงานทั้งหมดที่ผ่านมาตลอดทั้งปีว่าเป็นอย่างไร มีจุดด้อยตรงไหนบ้าง จะได้นำเอาไปปรับปรุงแก้ไขพัฒนาให้บริษัทเติบโต ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่ได้วางแผนเอาไว้

อัตราส่วนทางการเงิน แบ่งออกเป็นกี่ประเภท มีอะไรบ้าง ?

อัตราส่วนทางการเงิน สามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน ดังนี้

1.อัตราส่วนสภาพคล่องของธุรกิจ – เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้บอกว่าบริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้สินระยะสั้นได้หรือไม่

ค่าที่ควรจะเป็น : ยิ่งมากยิ่งดี เพราะแสดงถึงสภาพคล่องที่เพียงพอต่อการชำระหนี้

 2.อัตราส่วนหนี้สิน – เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้บอกว่าบริษัทมีภาระหนี้สินเป็นกี่เท่าเมื่อเทียบกับเงินทุนของผู้ประกอบการ

ค่าที่ควรจะเป็น : ยิ่งน้อยยิ่งดี เพราะแสดงถึงภาระหนี้ที่น้อย หากค่าที่ได้เป็นตัวเลขที่สูง กิจการก็มีความเสี่ยงทางการเงินที่สูงเช่นกัน โอกาสที่ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้กิจการก็น้อยลง

3.อัตราส่วนการทำกำไร – เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้บอกถึงความสามารถในการทำกำไรของกิจการ หลังจากหักค่าใช้จ่ายทุกรายการแล้ว

ค่าที่ควรจะเป็น : ยิ่งมากยิ่งดี เพราะแสดงถึงความสามารถในการทำกำไรและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี

 4.อัตราส่วนความสามารถในการบริหารงาน – เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้บอกถึงความสามารถของบริษัทในการบริหารสินทรัพย์ทั้งหมดที่กิจการมีให้เกิดเป็นรายได้ขึ้นมา

ค่าที่ควรจะเป็น : ยิ่งมากยิ่งดี เพราะแสดงถึงการใช้ทรัพย์สินที่กิจการมีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของอัตราส่วนทางการเงินกับการขอสินเชื่อ

อัตราส่วนทางการเงินเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์รายงานทางการเงิน ซึ่งอธิบายถึงฐานะความมั่นคงทางการเงินและผลการดำเนินงาน โดยธนาคารจะดูค่าที่ได้จากอัตราส่วนต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อช่วยให้เข้าใจสุขภาพทางการเงินของกิจการ ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะปล่อยสินเชื่อให้หรือไม่

ถ้าอัตราส่วนทางการเงินที่วิเคราะห์ออกมาแสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีจุดแข็งมากกว่าจุดอ่อน โอกาสที่ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อให้ก็ง่ายขึ้น ซึ่งภาระหนี้สินของกิจการจะถูกนำมาวิเคราะห์เป็นปัจจัยต้น ๆ ก่อนที่ธนาคารจะทำการปล่อยกู้

โดยสรุปแล้วธุรกิจที่ต้องการกู้แบงค์ในอนาคต จะต้องเตรียมตัวจัดการอัตราส่วนทางการเงินและวางแผนบัญชีให้ดีโดยเร็วที่สุด หาที่ปรึกษาบัญชีดี ๆ หรือสำนักงานบัญชีคุณภาพมาเป็นผู้ช่วยเหลือภายในบริษัท เพื่อให้มองเห็นงบการเงินที่ไม่คลาดเคลื่อน จะได้รู้ถึงปัญหาและได้เห็นข้อมูลที่นำมาเปรียบเทียบสำหรับวัดผลการทำงานที่ผ่านมาได้

ดังนั้นบัญชีบริหารจะต้องถูกรายงานให้กับฝ่ายบริหารเพื่อจะได้เอาไปใช้วางแผน ควบคุม และปรับเปลี่ยนยุทธวิธีการบริหารต้นทุนและกำไรให้มีจุดแข็งมากขึ้น โอกาสในการต่อรองขอสินเชื่อกับธนาคารก็จะได้ไม่ยากจนเกินเอื้อมนั่นเอง สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่กำลังต้องการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราส่วนทางการเงิน ลองเข้ามาติดต่อสอบถามกับ Scholar Accounting  เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดทำบัญชี รับรองว่าคุณจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับอัตราส่วนทางการเงินเพื่อนำไปใช้ในการขอสินเชื่อกับธนาคารอย่างแน่นอน